♥ ผู้ติดตาม ♥

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วันภาษาไทยแห่งชาติ 2557

วันภาษาไทยแห่งชาติ 2557
วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี

      ประเทศไทยได้กำหนดให้เป็น "วันภาษาไทยแห่งชาติ"


ความเป็นมาของวันภาษาไทยแห่งชาติ
 
                    
               สืบเนื่องจากเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานและทรงอภิปรายเรื่อง  ปัญหาการใช้คำไทย  ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่าณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทรงแสดงพระปรีชาสามารถและความสนพระราชหฤทัยห่วงใยในภาษาไทย จนเป็นที่ประทับใจผู้ร่วมประชุมครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง 


กลอนภาษาไทย
 
 คุณค่าภาษาไทย 

เป็นคนไทยต้องรักภาษาไทย
 รักษาไว้ให้อยู่ได้เนานานหนอ 
อย่าทำร้ายลายลักษณ์ที่ถักทอ 
ที่แม่พ่ออนุรักษ์ตระหนักคุณ 


ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาชาติ
 
อย่าประมาทใช้ผิดให้เคืองขุ่น
 ครูท่านสอนสั่งไว้เลยนะคุณ
 ความว้าวุ่นแห่งภาษาจะมากมี 


ถ้าเมื่อใดไร้ภาษาที่มีอยู่
 
คงอดสูอายเขาไปทุกที่
 และอาจสิ้นชาติไทยไปด้วยซี 
เพราะวิถีชีวีที่เปลี่ยนไป

ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีค่า
มากยิ่งกว่านพรัตน์เป็นไหน
ไหน มวลหมู่แก้วถึงมีค่ากว่าสิ่งใด
คงมีได้แค่เพียงค่าราคาเงิน


แต่คุณค่าของภาษามีสูงส่ง
ช่วยดำรงความเป็นชาติไม่ขัดเขิน
เพราะภาษาแสดงลักษณ์จำหลักเกิน
กว่าค่าเงินตรา...แต่สง่าอยู่ที่ใจ


เป็นคนไทยต้องรักภาษาไทย
รักษาให้อยู่นานนานจะได้ไหม
อย่าทำลายภาพลักษณ์ความเป็นไทย
 โดยที่ไม่รู้ค่าภาษาเอย ฯ 

แต่งโดย : อรุโณทัย ประพันธ์


ภาษาและที่มา

คำว่า ไทย หมายความว่า อิสรภาพ เสรีภาพ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ ใหญ่ ยิ่งใหญ่ เพราะการจะเป็นอิสระได้จะต้องมีกำลังที่มากกว่า แข็งแกร่งกว่า เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก คำนี้เป็นคำไทยแท้ที่เกิดจากการสร้างคำที่เรียก "การลากคำเข้าวัด" ซึ่งเป็นการลากความวิธีหนึ่ง ตามหลักคติชนวิทยา คนไทยเป็นชนชาติที่นับถือกันว่า ภาษาบาลีซึ่งเป็นภาษาที่บันทึกพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นภาษาอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นมงคล เมื่อคนไทยต้องการตั้งชื่อประเทศว่า ไท ซึ่งเป็นคำไทยแท้ จึงเติมตัว ย เข้าไปข้างท้าย เพื่อให้มีลักษณะคล้ายคำในภาษาบาลีสันสกฤตเพื่อความเป็นมงคลตามความเชื่อของตน ภาษาไทยจึงหมายถึงภาษาของชนชาติไทยผู้เป็นไทนั่นเอง




อ้างอิง:"คลิ๊ก"

ความสำคัญของภาษาไทย

1.เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร
การดำเนินชีวิตประจำวันและในการประกอบอาชีพจะมีการติดต่อสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องราว ความรู้สึก ความนึกคิด ความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งได้แก่ผู้ส่งสาร ซึ่งจะส่งสารโดยแสดงพฤติกรรมในรูปของการพูด การเขียน หรือแสดงด้วยท่าทาง ส่วนผู้รับสารจะรับสารด้วยการฟัง การดู หรือการอ่าน แต่ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารหรือรับสารก็ตาม เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้เป็นสะพานเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันคือ ภาษา

2.เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้
บรรพบุรุษไทยได้สร้างสรรค์ สะสม อนุรักษ์และถ่ายทอดเป็นวัฒนธรรมให้เป็นมรดกของชาติโดยใช้ภาษาไทยเป็นสื่อ คนรุ่นหลังจึงใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการศึกษาแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ และรับสิ่งที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการพัฒนาตนเอง ทั้งการพัฒนาสติปัญญา กระบวนการคิด การวิเคราะห์ การวิพากษ์วิจารณ์ การแสดงความคิดเห็น ทำให้เกิดความรู้และประสบการณ์ที่งอกงาม กลายเป็นผู้ที่มีชีวทัศน์และโลกทัศน์ที่สอดคล้องกับยุคสมัย สามารถติดตามความเจริญก้าวหน้าของศาสตร์ต่างๆ จึงรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกปัจจุบัน ซึ่งนำมาพัฒนาประเทศชาติได้อย่างดี

3.เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน
ในประเทศไทยนอกจากจะมีภาษาไทยกลางซึ่งเป็นภาษาประจำชาติแล้ว เรายังมีภาษาถิ่นต่างๆ ซึ่งเป็นภาษาที่ติดต่อกันเฉพาะในกลุ่ม และเมื่อกำหนดให้ภาษาไทยกลางเป็นภาษามาตรฐานเป็นภาษาที่ใช้ร่วมกัน ทำให้การสื่อสารเข้าใจตรงกันทั้งในการศึกษา ในทางราชการ และในสื่อสารมวลชน การใช้ภาษาไทยกลางช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันในสังคมไทยโดยส่วนรวม

4.เป็นเครื่องมือในการบันทึกและถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของบรรพบุรุษในรูปของวรรณคดีและวรรณกรรม
การอ่านและการศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมแต่ละสมัย ทำให้ชนรุ่นหลังรับรู้และเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้แต่ง เข้าใจสภาพความเป็นอยู่ เข้าใจเหตุการณ์ เข้าใจลักษณะสังคม และสังคมของผู้คนในสมัยนั้นๆ

5.เป็นเครื่องมือสร้างเอกภาพของชาติ
การที่ประเทศไทยมีภาษาไทยกลางเป็นมาตรฐานที่ใช้ร่วมกัน มีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นชาติที่มีความเจริญรุ่งเรือง มีอารยธรรม การใช้ภาษาไทยในการนติดต่อสื่อสารทำให้เกิดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเกิดความผูกพันเป็นเชื้อชาติเดียวกัน ทำให้เกิดความปรองดองและร่วมมือกันที่นะพัฒนาชาติไทยให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงต่อไป

6.เป็นเครื่องมือช่วยจรรโลงใจ
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสียงไพเราะเมื่อผู้เขียนได้นำมาแต่งเป็นร้อยแก้วและร้อยกรอง เมื่อใครได้อ่านได้ฟังก็จะเกิดความรู้สึกชื่นบาน เกิดความจรรโลงใจ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของอะไรก็ตามซึ่งเป็นเรื่องราวที่ช่วยให้เกิดความจรรโลงใจ และความชื่นบานนี้จำเป็นต้องอาศัยภาษาเป็นสื่อ ภาษาไทยจึงมีความสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตคนไทยมีความสดชื่น รื่นรมย์ มีสุขภาพจิตที่ดี ไม่เคร่งเครียด เกิดความคิดสร้างสรรค์ และสังคมดำรงอยู่ได้ด้วยดี


อ้างอิง :"คลิ๊ก"

ภาษากับวัยรุ่น

ผัสชาณิกาญจน์   หาญณรงค์   :  เรียบเรียง
               ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีการสื่อสารเกิดขึ้นอย่างมากมาย ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์จึงทำให้เกิดค่านิยมแปลกๆใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลาซึ่งส่งผลกระกระทบต่อเยาวชนไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นไทยในปัจจุบันที่ได้รับค่านิยมที่ผิดๆต่อการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือการใช้ภาษาไทยอย่างผิดๆโดยไม่คำนึงถึงปัญหาต่างๆที่จะส่งผลกระทบตามมา ซึ่งเยาวชนในสมัยนี้มีความคิดที่ว่าการใช้คำภาษาไทยในแบบที่ผิดๆนั้นเป็นเรื่องที่เท่ห์ เก๋ ดูดี ทันสมัย และหากไม่ใช้คำที่ผิดๆก็จะถูกมองว่าเชย ล้าสมัย ตกกระแส บ้านนอก แต่เยาวชนเหล่านี้ลืมมองไปว่ากว่าที่เราจะมีภาษาไทยไว้ใช้ในปัจจุบันนั้นยากลำบากแค่ไหน
              ประเทศไทยของเรานั้นมีภาษาที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย    เราควรภาคภูมิใจในความเป็นเอกราช และภาษาของเราเอง แต่ก็มีเยาวชนในบางส่วนไม่เห็นคุณค่าของคำในภาษาไทย  ซึ่งจะนิยมใช้คำในภาษาไทยแบบที่ผิดๆทำให้คำในภาษาไทยเริ่มวิบัติลง ซึ่งเห็นได้จากการสื่อสารกันผ่านทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งอุปกรณ์การสื่อสารต่างๆ โดยผ่านทางการพิมพ์ ภาษาวิบัติหรือภาษาอุบัตินั้นก็คือภาษาที่เรียกคำในภาษาไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงรวมทั้งการเขียนที่สะกดผิดบ่อย คำศัพท์ใหม่หรือคำศัพท์ที่สะกดให้แปลกแตกต่างไปจากเดิม
           ภาษาไทยเป็นภาษาที่สื่อถึงวัฒนธรรมที่แสดงถึงความสำคัญของชาติ ทำให้ภาษาเปรียบได้เสมือนกับการเป็นรั้วของชาติ ดังคำกล่าวที่ว่าถ้าชนชาติใดสามารถรักษาภาษาของตนไว้ได้ดี ให้มีความบริสุทธิ์ ก็จะได้ขึ้นขื่อว่ารักษาชาติ การที่เรานั้นได้เกิดเป็นคนไทยนับเป็นโชคดีมากที่มีภาษเป็นของตนเอง นอกจากนี้ยังมีสระ พยัญชนะที่ถือว่าเป็นอักษรประจำชาติ ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ให้เราได้ใช้มาจนปัจจุบัน เราควรภูมิใจที่มีภาษใช้มามากกว่า 700 ปี
             ปัญหาการใช้คำในภาษาไทยเกิดขึ้นมาเป็นระยะยาวนานหลายสิบปี แต่ในปัจจุบันปัญหานี้ยังเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆโดยมีปัจจัยที่สำคัญก็คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เราพบเห็นการใช้คำในภาษาไทยที่ผิดๆจนเกิดความคุ้นชิน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่มีการใช้ภาษาวิบัติกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่มีวิวัฒนาการทางภาษาที่มีใช้กันเฉพาะกลุ่มซึ่งโดยส่วนมากจะไม่มี       ไวยกรณ์เป็นส่วนประกอบของภาษาที่ใช้
            สื่อเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อยู่กับเด็กและเยาวชนตลอดเวลา ดังนั้นสื่อควรตระหนักว่าตนมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมต่างๆของวัยรุ่น รวมทั้งการภาษา ในปัจจุบันสื่อมักมีการใช้คำที่แปลกใหม่เพื่อเป็นการสร้างสีสันของข่าวและดึงดูดให้ผู้ชมผู้ฟ้งมาสนใจข่าวของตน ดังนั้นเมื่อมีการมีการสื่อสารควรจะใช้วิจารณญาณและภาษาไทยให้ถูกต้อง
             เราจะเห็นได้ว่า ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะภาษาไทยนั้น นอกจากเป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารแล้ว ยังเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี 


อ้างอิง :"คลิ๊ก"







ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น

                     ภาษาไทยเป็นทั้งวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และความภูมิใจของคนไทย แต่ปัจจุบันคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ใช้ ภาษาไทยได้ไม่ดีพอ ไม่รู้ว่าพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีกี่รูป กี่เสียง และยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ยังพูดภาษาไทยผิดบ้าง เขียนผิดบ้าง หรือบ้างก็จับใจความผิด ฟังผิด อ่านผิด บ้างก็พูดภาษาไทยคำภาษาอังกฤษคำ จนเกิดปัญหาการสื่อสารและเข้าใจความหมายของภาษาในทางที่ผิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุที่จะทำให้เสน่ห์ของ ภาษาไทยค่อย ๆ เลือนหายไป 


"ในปัจจุบันนี้ปรากฏว่า ได้มีการใช้คำออกจะฟุ่มเฟือย และไม่ตรงกับความหมายอันแท้จริงอยู่เนือง ๆ ทั้งออกเสียงก็ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี ถ้าปล่อยให้เป็นไปดังนี้ ภาษาของเราก็มีแต่จะทรุดโทรม ชาติไทยเรามีภาษา ของเราใช้เองเป็นสิ่งอันประเสริฐอยู่แล้ว เป็นมรดกอันมีค่าตกทอดมาถึงเราทุกคน จึงมีหน้าที่จะต้องรักษาไว้…"

พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เราจะเห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเน้นย้ำให้ประชาชนชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญ ของภาษาไทยและพระราชทานแนวความคิดในการอนุรักษ์ภาษาไทยในโอกาสต่าง ๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญยิ่งกว่านี้ คือ เป็นที่ประจักษ์ว่าพระองค์มีพระปรีชาญาณและพระอัจฉริยภาพในการใช้ภาษาไทย ทรงรอบรู้ปราดเปรื่องและ เป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในการใช้ภาษาไทยมาโดยตลอด กลุ่มคนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยใช้ภาษาไทยอย่างผิดเพี้ยนนั้นต่างมุ่งเป้าไปที่กลุ่มดาราวัยรุ่น นักแสดง นักร้อง นักการเมือง และสื่อมวลชน ที่มักใช้ภาษาอย่างไม่เหมาะสม มีการใช้คำแสลงจนภาษาไทย เข้าขั้นวิกฤติ นอกจากนี้ยังมองว่าพ่อแม่ผู้ปกครองก็ไม่ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กได้อ่านหนังสืออย่างอื่น นอกจากตำราเรียน อีกทั้งสถานศึกษาอีกจำนวนมากไม่ได้สนับสนุนให้เด็กได้ร่วมกิจกรรมหรือโครงการดี ๆ ที่เน้นการอ่าน การเขียน การพูด หรือกิจกรรมที่เน้นให้เด็กได้คลุกคลีกับตัวหนังสือ ขณะที่ห้องสมุดก็ไม่ค่อย จะมีกิจกรรมดึงดูดให้เด็กเข้าไปศึกษาหาความรู้ แม้ปัญหาการใช้ภาษาไทยได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายสิบปี แต่ในยุคปัจจุบันนี้ ปัญหายิ่งวิกฤติความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีปัจจัยหนุนนำที่สำคัญนั่นคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว เราจึงพบการใช้ภาษาไทยแบบผิด ๆ มากมายจนเกือบจะกลายเป็นความคุ้นชิน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ยิ่งน่าเป็นห่วงมากที่สุด เป็นกลุ่มที่นิยมใช้ภาษาที่มีวิวัฒนาการทางภาษาที่เฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นภาษาที่เกือบจะไม่มีไวยากรณ์ ไม่ว่าจะจากการรับส่งข้อความสั้น (SMS) การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การสนทนาออนไลน์ (MSN) หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นในโลกอินเทอร์เน็ต สำหรับภาษาของวัยรุ่นที่พบเห็นกันบ่อย ๆ นั้น มีทั้งภาษาที่ใช้ในการพูด โดยมักพูดให้มีเสียงสั้นลง หรือยาวขึ้น หรือไม่ออกเสียงควบกล้ำเลย เช่น

ครับ = คับ
จริง = จิง
เปล่า = ป่าว

ส่วนภาษา ที่ใช้ในการเขียน ซึ่งจะมีทั้งคำพ้องเสียง เช่น
เธอ = เทอ
ใจ = จัย
หนู = นู๋
ผม = ป๋ม
ไง = งัย
กรรม = กำ
เสร็จ = เสด





อ้างอิง :"คลิ๊ก"

การเปลี่ยนแปลงภาษาไทยกับวัยรุ่นยุคใหม่

" สังคมเราในปัจจุบันนี้โลกเราได้มีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง
ทำให้มีความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันรวมทั้งการสื่อสารด้วย
ซึ่งในประเทศไทยนี้เยาวชนยุคใหม่บางส่วนได้นำค่านิยมผิด ๆ "

โลกเราได้มีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องอย่างมากในชีวิตของคนไทยเรา ทำให้มีความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันรวมทั้งการสื่อสารด้วย ซึ่งในประเทศไทยนี้เยาวชนยุคใหม่บางส่วนได้นำค่านิยมผิด ๆ มาใช้กัน นั้นก็คือการใช้ภาษาไทยที่ผิด โดยเยาวชนกลุ่มนั้นคิดว่าเมื่อใช้แล้วมันเก๋ดี มันเท่ห์ดี แต่หารู้ไม่ว่าอาจจะทำให้ภาษาไทยของเราเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงและทำให้เยาวชนยุคหลังๆใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องตามไปด้วย ประเทศไทยของเรามีภาษาเป็นของตนเองแสดงออกถึงความเป็นเอกราชและความภาคภูมิใจของคนไทยเรา ภาษาไทยเป็นมรดกของคนไทยมายาวนานแต่เยาวชนยุคบางส่วนใหม่กลับไม่รู้คุณค่าของมันเลย การใช้ภาษาไทยที่ผิด ๆ ของวัยรุ่นนั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้ภาษาไทยวิบัติลงไปจริง ๆ ซึ่งจะเห็นได้จากที่วัยรุ่นใช้สื่อสารกันทาง msn Facebook หรือ Twitter เช่นคำว่า

ทามอะไรอยู่-ทำอะไรอยู่ 
เปนอะไร-เป็นอะไร 
นู๋ (หนู)
ชะมะ,ชิมิ (ใช่ไหม)
ป่าว (เปล่า)
เทอ (เธอ)
ชั้ล , ช้าน (ฉัน)
ค้ะ , คร๊ , คร้ะ , ค่า (ค่ะ)
คร้าบ , คับ , คัฟ , คร๊าฟ (ครับ)

เพราะคำเหล่านี้ทำให้พิมพ์ง่าย สื่อสารกันได้เร็ว และดูเก๋ด้วย แต่ถ้าคิดอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ภาษาไทย 1คำ สามารถเขียนได้หลายแบบ เพราะภาษาไทยมีพยัญชนะที่ออกเสียงเหมือน ๆ กัน มีสระที่เสียงคล้าย ๆ กัน จึงทำให้สามารถเขียนออกมาได้หลายแบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาไทยนั้นสามารถดัดแปลง เปลี่ยนแปลงคำได้หลากหลาย โดยที่ความหมายเหมือนเดิม แต่ลักษณะการเขียนผิดออกไป เป็นเสมือนการสร้างคำ สร้างภาษให้มีการวิบัติมากขึ้น การใช้คำใช้ภาษาไปผิดๆ ทำให้เป็นการฝึกนิสัยในการใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษา และฉันกลาพูดได้เลยว่าวัยรุ่นไทยสมัยนี้เขียนคำ สะกดคำในภาษาไทย ได้ไม่ถูกตามตัวสะกด และเขียนภาษาไทยได้ไม่ถูกต้องตามหลักภาษา พูดไม่ถูกอักขระ ไม่มีคำควบกล้ำ บางคนพูดภาษาไทยไม่ชัดเจนด้วยซ้ำซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาไทยสามารถดัดแปลง เปลี่ยนแปลงคำได้หลากหลาย โดยที่ความหมายเหมือนเดิม แต่ลักษณะการเขียนผิดออกไปจากเดิม ทำให้ความเปลี่ยนแปลงทางภาษาไทยที่มีความซับซ้อนและทำให้วัยรุ่นนิยมใช้ภาษาไทยที่มีความหมายละเอียดและกว้างจากความหมายเดิมมีมากขึ้น ภาษาไทยจึงถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของประเทศไทย ถึงแม้จะเป็นไปตามกระแสทางวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันและอนาคต แต่การช่วยกันอนุรักษ์ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องจะช่วยให้ภาษาไทยที่เป็นภาษาประจำชาติกลับมาคงความสวยงามและมีความหมายอย่างถูกต้องเหมือนในอดีต และขอทิ้งท้ายคำขวัญเกี่ยวกับการอนุรักษ์ภาษาไทยไว้
อ้างอิง : "คลิ๊ก"